รักษาสิวจนดีขึ้นแล้ว ทำอย่างไรถึงจะคงสภาพหน้าใสไร้สิวไร้รอยได้ในระยะยาว หมอสิวโคราชมีคำตอบ

สิว ปัญหากวนใจของใครหลายคน พบในวัยรุ่นแต่ก็มีที่เป็นๆหายๆไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ มักเป็นเรื้อรัง มีโอกาสกลับเป็นซ้ำได้อีก ที่คลินิกรักษาสิวโคราช เมื่อคนไข้มารับการรักษาครั้งแรก ก็มักให้ประวัติว่าเป็นสิวเป็นหายๆมาตลอด ไม่ดีขึ้นสักที เพราะฉะนั้นเมื่อคนไข้รักษาสิวจนหน้าใส ไร้สิว ไร้รอยแล้วทำอย่างไรถึงจะคงสภาพหน้าใสไร้สิวไร้รอยได้ในระยะยาวมาฟังคำตอบจากหมอเจี๊ยบ หมอสิวโคราชกันนะคะ

อันดับแรกเราต้องมาดูกันก่อนค่ะว่า ปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้เกิดสิว มีอะไรบ้าง กลไกการเกิดสิวเป็นอย่างไร แล้วการรักษาสิวทั้งการรักษาหลัก การรักษาเสริมต่างๆ รักษาสิวอย่างไร

ปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้เกิดสิว

แบ่งเป็น

ปัจจัยภายในร่างกาย

1. ฮอร์โมน Androgen

2.กรรมพันธุ์ ประวัติคนในครอบครัวเป็นสิว

3. ความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ อดนอน

4. โรคต่อมไร้ท่อบางชนิด เช่นโรคถุงน้ำในรังไข่

ปัจจัยภายนอกร่างกาย

1. เครื่องสำอางเช่นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำมัน รองพื้น

2. ยาบางชนิดเช่น เช่นยากลุ่มสเตียรอยด์

3. การเสียดสีหรือระคายเคืองผิว

4. สภาวะแวดล้อมและการดำเนินชีวิต ฝุ่นละออง

5. อาหารเช่นผลิตภัณฑ์จากนมวัว อาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาลสูง ช็อกโกแลต

ซึ่งกลไกลการเกิดสิวมี 4 อย่างดังนี้

1.Seborrhea

การผลิตไขมัน ที่เพิ่มขึ้น

2.Hyperkeratosis

การอุดตันในท่อรูขุมขน

3.Microbial colonization

แบคทีเรีย( C.acnes)ที่เจริญเติบโตอยู่บริเวณรูขุมขนมีการเจริญเติบโตมากกว่าปกติ

4.Inflammation

กระบวนการอักเสบของร่างกาย

เมื่อรักษาสิวกับหมอเจี๊ยบที่คลินิกรักษาสิวโคราชจนหน้าใสแล้ว คลินิกรักษาสิวโคราช มีจุดประสงค์สำคัญในการรักษาสิวคือให้คนไข้สามารถดูแลผิวหน้าได้ด้วยตนเอง ให้คงสภาพหน้าหน้าใส ไร้สิว ไร้รอยไปได้ในระยะยาว คำแนะนำการปฏิบัติตัวมีดังนี้

ซึ่งการรักษาสิวทั้งการรักษาหลักคือการใช้ยารักษาสิวทั้งยาทาและยารับประทาน รวมถึง การรักษาเสริมที่คลินิกต่างๆ เช่นการผลัดเซลล์ผิว การฉายแสงสิว ล้วนรักษาที่กลไกลการเกิดสิว 4 อย่างที่ผิวหน้า โดยมีจุดประสงค์เพื่อ

1. ลดการผลิตไขมันจากต่อมไขมัน

2. ลดการอุดตันในท่อรูขุมขน ให้การผลัดเซลล์ผิวเป็นไปอย่างปกติ

3. ฆ่าเชื้อแบคทีเรียC.acnes

4. ลดปฏิกริยาการอักเสบ

1.ทายาต่อเนื่องในระยะยาว เพื่อป้องกันการเกิดสิวใหม่

ซึ่งยาทาป้องกันสิวที่เรามักเลือกใช้คืออนุพันธ์วิตามินเอ เช่น tretinoin นอกจากจะช่วยป้องกันการเกิดสิวใหม่แล้ว ยังช่วยกระตุ้น

การสร้างคอลลาเจน ลดสิวเสี้ยน ลดรอยดำ ใช้ต่อเนื่องได้ไม่ทำให้หน้าบาง ไม่ทำให้ผิวติดสาร โดยการทาควรทาทั่วบริเวณที่เป็นสิว และควรทาร่วมกับครีมบำรุงเพิ่มความชุ่มชื้นของผิว เพื่อลดอาการผิวแห้ง แดง ลอก ควรหลีกเลี่ยงแสงแดด และทาครีมกันแดดเป็นประจำสม่ำเสมอทุกวัน

2.ลดโอกาสการเกิดสิวจากปัจจัยภายนอก

ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆที่เหมาะกับผิวเป็นสิว ไม่มัน ไม่ก่อให้เกิดสิว ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน ( Non – comedogenic)ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง ( Non – irritant) ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ ( Hypoallergenic) หรือแม้แต่สเปรย์จัดแต่งทรงผมหรือเจลบำรุงผมเมื่อใช้ก็ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผิวหน้าโดยตรง

เลี่ยงการลองใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ทราบที่มาที่ไปชัดเจน ครีมออนไลน์ที่ไม่ทราบแหล่งผลิตชัดเจน ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐาน อาจเลือกใช้เวชสำอางที่เหมาะกับผิวเป็นสิวก็ได้

แต่การใช้ผลิตภัณ์ที่เหมาะกับผิวเป็นสิวเพียงอย่างเดียวก็อาจไม่เพียงพอในการป้องกันสิวได้ คนไข้บางคนให้ประวัติว่า ใช้ครีมบำรุงสำหรับผิวเป็นสิว ผิวแพ้ง่าย มาตลอดหลังรักษาสิวที่คลินิกจนหน้าใสแล้ว แต่ก็ยังกลับมาเป็นสิว สิวไม่ดีขึ้น ยังคงมีสิวขึ้นใหม่อยู่เรื่อยๆ อาจเป็นเพราะครีมที่ใช้ไม่ได้กระตุ้นให้เกิดสิวใหม่ แต่ก็ไม่สามารถรักษาสิวและป้องกันสิวที่มีได้เพราะฉะนั้นควรใช้ร่วมกับยาทาป้องกันการเกิดสิวใหม่ควบคู่ไปด้วยจึงจะเห็นผลในการป้องกันสิวใหม่ได้ดีขึ้น

หลีกเลี่ยงการอยู่ในสภาวะที่มีมลภาวะฝุ่นละออง หลีกเลี่ยงอาหารที่มีโอกาสทำให้เกิดสิวหากรับประทานแล้วมีสิวขึ้น

3.อาจดูแลเพิ่มเติมในส่วนการรักษาเสริมที่คลินิกเช่นการทำผลัด

เซลล์ผิวอเมริกาMiami peel ซึ่งจะช่วยเรื่องของการทำให้มีการผลัดเซลล์ผิวในแบบที่เหมาะสม ลดการสร้างน้ำมัน รวมถึงการลดรอยดำทำให้ผิวกระจ่างใส สามารถทำได้ทุก2สัปดาห์ ไม่ทำให้หน้าบาง

เพียงเท่านี้ ก็จะลดโอกาสการกลับมาเป็นสิวซ้ำ โดยที่คนไข้สามารถดูแลผิวหน้าให้หน้าใส ไร้สิว ไร้รอยด้วยตนเองได้ในระยะยาว

สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือปรึกษาหมอเจี๊ยบได้ที่